Logo
  • แกลลอรี่
    • วีดีโอ
    • รูปภาพ
  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ข่าวสาร&บล็อก
    • ข่าวสาร
    • บล็อก
  • การรับประกัน
  • ติดต่อเรา
  • NEWS
  • 5 สัญญาณเตือน ว่าถึงเวลาเปลี่ยนยางแล้วหรือยัง?

5 สัญญาณเตือน ว่าถึงเวลาเปลี่ยนยางแล้วหรือยัง?

    “วิ่งครบ 50,000 กิโลเมตรก็เปลี่ยนได้แล้ว” จริงหรอ???

    “ใช้ซัก 2-3 ปีควรเปลี่ยนซะเถอะ” ใช่รึป่าว???

    มีความเข้าใจผิดๆกันมากมายเกี่ยวกับเรื่องของการเปลี่ยนยางรถยนต์ ทั้งจากคำบอกเล่าของคนนู้น คนนี้ คำบอกเล่าเหล่านี้ มีทั้งส่วนที่ถูกและผิดอยู่ในนั้น

    วันนี้ Raiden จะขอนำเทคนิค 5 ข้อ ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็สามารถตรวจดูได้ด้วยตัวเองว่า ยางรถยนต์ของคุณนั้น ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนหรือยัง
   จะมีอะไรบ้างไปอ่านกันเลย

1. ตรวจเช็คหน้ายางง่ายๆ ด้วยสะพานยาง

  ได้ยินคำนี้แล้วอย่าพึ่งตกใจกันไป ว่ามันคืออะไร อยู่ตรงไหน เราจะดูเป็นมั๊ย เพราะเอาจริงๆแล้ว มันง่ายมาก และยางรถยนต์ทุกเส้น มีตัวบอกสภาพดอกยางอยู่แล้ว ซึ่งจะอยู่ที่ร่องตรงกลางของยาง มีลักษณะเป็นสันนูนคล้ายสะพาน ที่เชื่อมร่องดอกยางให้ติดกัน (ดูได้จากรูปภาพประกอบ) ซึ่งถ้าดอกยางของเรานั้น อยู่ในระดับเดียวกันกับตัวสะพานยางแล้ว ตอบได้ทันทีว่า ถึงเวลาแล้วที่ควรเปลี่ยนยาง


ระดับความอันตราย

ระดับความอันตราย :


2. พบความผิดปกติที่ภายนอกของยาง

แก้มยางแตก, มีรอยร้าว

แก้มยางแตก, มีรอยร้าว : ข้อนี้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่าของตัวเอง พยายามหมั่นตรวจสอบกันอยู่เสมอนะครับ ถ้าหากพบเห็นรอยแตกหรือร้าว ต้องรีบเปลี่ยนยางโดยด่วน เพราะอาจเป็นสาเหตุให้ยางระเบิดได้ เมื่อขับรถด้วยความเร็ว


ระดับความอันตราย

ระดับความอันตราย :


2. พบความผิดปกติที่ภายนอกของยาง

ยางบวม

ยางบวม : ถ้าหากตรวจพบว่ายางมีลักษณะ บวม ปูด นูน ออกมาจากปกติ ต้องรีบเปลี่ยนยางโดยทันที เพราะอาการนี้ อาจทำให้ยางระเบิดได้


ระดับความอันตราย

ระดับความอันตราย :


3. เนื้อยางแข็งกระด้าง

 โดยทั่วไปยางที่ใหม่ หน้ายางจะนิ่ม จะเบรกหรือเข้าโค้งได้ดี แต่หน้ายางหมดอายุ หน้ายางจะเริ่มแข็ง เบรกเริ่มมีเสียงดัง และระยะเบรกไม่ดีเหมือนเคย อาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้ วิธีการตรวจเช็คโดยง่ายก็คือ ใช้เล็บมือลองจิกลงบนหน้ายาง ถ้าหากว่าจิกลงไปแล้ว ไม่ทิ้งรอยเล็บ แสดงว่าหน้ายางหมดอายุแล้ว คุณอาจต้องเปลี่ยนยางใหม่ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่


ระดับความอันตราย

ระดับความอันตราย :


4. อายุของยาง

ทำความเข้าใจกันก่อนว่า อายุของยางนั้นดูได้จากไหน ง่ายมากครับ ให้ทุกคนลองสังเกตุบนแก้มยาง ค้นหาวงรีที่มีเลข 4 หลักอยู่ด้านใน (ดั่งรูปภาพประกอบ) ซึ่งตัวเลข 4 ตัวนี้ มีความหมายคือ 2 หลักแรก บอกถึงสัปดาห์ที่ผลิตในปีนั้น (1 ปีมี 52 สัปดาห์) และเลข 2 หลักถัดมา บอกปี คศ. ที่ผลิต

(ดั่งตัวอย่างในภาพคือเลข 1315 หมายความว่า ผลิตเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ 13 ของปี 2015 หรือประมาณช่วงต้นเดือนเมษายน 2015 นั่นเอง )

โดยทั่วไปนั้นยางรถยนต์มีอายุการใช้งาน 5 ปี นั้นหมายความว่าคุณควรตัดสินใจเปลี่ยนยางใหม่ ในเดือนเมษายน ค.ศ.2020 นั่นเอง


ระดับความอันตราย

ระดับความอันตราย :


5. บาดแผลของยาง

โดยปกติทั่วไปแล้ว เมื่อยางเกิดรั่ว ซึม ส่วนใหญ่นั้น มักจะวิ่งเข้าไปหาร้านปะยางกันแทบทั้งนั้น เพราะราคาถูกกว่าการเปลี่ยนยางทั้งเส้น แต่อย่าเข้าใจผิดนะครับ ว่าการปะยางจะใช้ได้กับทุกบาดแผลหรือทุกกรณีไป เพราะการปะยางนั้น ควรทำกับบาดแผลเล็กๆ ที่เกิดรอยรั่วไม่เกิน 0.6 มิลลิเมตร และเกิดขึ้นบริเวณหน้ายางเท่านั้น โดยแผลนั้น ต้องไม่ไปทำลายโครงสร้างยางภายใน ซึ่งตรงส่วนนี้อาจจะไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าจากภายนอก อาจจะต้องถอดยางออกมาดูท้องยางภายใน แต่มีหลักในการสังเกตเบื้องต้นคือ เมื่อขับรถด้วยความเร็วประมาณหนึ่งแล้ว มีอาการพวงมาลัยสั่นผิดปกติไปจากเดิม แม้จะทำการถ่วงล้อมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม ส่วนบริเวณแก้มยางไม่แนะนำให้ปะ เพราะความแข็งแรงของวัสดุที่มาใช้ในการปะนั้น ไม่สามารถยึดเหนี่ยวได้อย่างแข็งแรง และอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดการระเบิดของยางได้


ระดับความอันตราย

ระดับความอันตราย :


หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว อย่าลืมกลับไปตรวจสอบหรือเฝ้าสังเกตยางรถยนต์ของคุณกันด้วยนะครับ

“กันไว้ ดีกว่าแก้” ด้วยความปรารถนาดีจาก Raiden ครับ

Raiden ยางยางซอฟ

2015 © RaidenTires. ALL Rights Reserved. | LensoWheel.co.th